ที่ห้องพิจารณา 814 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลได้อ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อ.2499/61 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ ฟ้อง นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ อายุ 59 ปี หรืออดีตพระพุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย อ.สามพราน จ.นครปฐม เป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร หน่วงเหนี่ยวกักขังฯ

กรณีเมื่อระหว่าง 23 พ.ย.56 – 1 พ.ค.57 ต่อเนื่องกัน จำเลยกับพวกร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปมีพฤติการณ์เป็งอั้งยี่ซ่องโจร เป็นหัวหน้า ผู้สั่งการกลุ่ม กปปส.เวทีแจ้งวัฒนะ หน้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยปลุกระดม ยุยง ชักชวนประชาชน และแนวร่วมเพื่อขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และขัดขวางการเลือกตั้ง ส.ส.เข้ายึดหน่วยงานและสถานที่ราชการหลายแห่งโดยร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง ใช้กำลังประทุษร้าย ร.ต.ต.สมคิด เชยกมล , ด.ต.วชิรพงศ์ อุ่นนวลบูรพงศ์ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล ได้รับบาดเจ็บสาหัส และทรัพย์สินรวม 8 รายการ มูลค่า 60,900 บาท สูญหาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 309,310

เหตุเกิดแขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม.

จำเลยรับสารภาพและศาลได้มีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะและพินิจ ประวัติของจำเลยแล้วส่งให้ศาลเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาพิพากษา

โดยวันนี้ อดีตพระพุทธะอิสระ ซึ่งได้รับการประกันตัวจากศาลราคาประกัน 2 แสนบาท และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เดินทางมาถึงศาลตั้งแต่ช่วงเช้า โดยต้องนั่งรถวีลแชร์ และมีลูกศิษย์ที่ยังศรัทธา ประมาณ 50 คน เดินทางมาให้กำลังใจ

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เป็นความผิดกรรมเดียว ผิดกฎหมายหลายบท ผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นฯ อันเป็นบทหนักสุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 309 , 310 ประกอบมาตรา 83

พิพากษาจำคุก 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 6 เดือน

พิเคราะห์รายงานการสืบเสาะฯ แล้วเห็นว่า จำเลยไม่เคยกระทำผิดมาก่อน ประกอบกับจำเลยได้บรรเทาผลร้ายในคดีจนผู้เสียหายพอใจ และไม่ติดใจเอาความ จึงให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นคนดี โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญาไว้มีกำหนด 1 ปี ส่วนที่อัยการโจทก์ ขอให้ศาลนับโทษต่อคดีร่วมกันก่อการกบฏนั้น เนื่องจากคดีดังกล่าวยังไม่มีคำพิพากษา จึงให้ยกคำขอ

ภายหลังฟังคำพิพากษาผู้ที่ยังศรัทธาพระพุทธะอิสระ ซึ่งเข้าร่วมฟังคำพิพากษาในห้องพิจารณา มีอาการดีใจ และกล่าวคำว่า สาธุๆๆ